Animalia Kingdom
เป็นโลกในยุคหลังมนุษย์ไม่มีบนโลกแล้ว เป้นโลกของสัตว์
เนื้อเรื่อง

Prologue : The Age of Catastrophe (ยุคแห่งภัยพิบัติ)
เนื่อเรื่องจะเริ่มขึ้นที่ยุค BC 40XX เมื่อมนุษย์โลกมีวิวัฒนาการ และความก้าวหน้าอยู่จุดสูงสุดก็ได้ล่ะทิ้งดาวโลกไปเนื่องมาจากการใช้ทรัพยากรที่หมด และที่ทิ้งเศษซากอารยธรรมและสารพิษไว้ที่โลกเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ออกไปจากดาวโลกนั้นมีเพียงแค่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากการนำสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไปด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ที่ดาวโลกจึงหลงเหลือเพียงแค่เหล่าสัตว์และ เศษซากอารยธรรมเท่านั้น
และเมื่อถึงเวลาเหล่าเศษซากอารยธรรมที่ปราศจากคนดูแลได้สร้างปัญหาขึ้นเมื่อแผ่นพื้นโลกเกิดการเคลื่อนไหวเนื่องจากการดูดนำพลังงานใต้ดินไปใช้จนหมด ประกอบกับสารพิษที่ไหลเข้าไปผสมกับธรรมชาติทำให้เกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น และแบ่งแยกดินแดนออก เหล่าสัตว์ต่างๆที่เคยอาศัยอยู่ต่างล้มตายเป็นจำนวนมาก และที่ยังหลงเหลือรอดก็วิวัฒนาการเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในสภาพแวดล้อมโดยใช้อารยธรรมที่หลงเหลือ จากเดิมที่เป็นขา ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นมือหยิบจับสิ่งของ จากที่เนื้อตัวเปล่าก็เริ่มพัฒนาเครื่องนุ่งห่ม เริ่มมีสติปัญญา
Animalia
ภาคยุคล่มสลาย : The Ravaged Age
(Board game)

หลังจากภัยพิบัติครั้งใหญ่ก็ผ่านมาเป็นเวลา 600 ปี เหล่าสัตว์ทั้งหลายใช้ชีวิตกันเป็นปกติ โดยแบ่งออกเป็น 8 สายพันธ์หลัก ได้แก่
1. เหล่าสัตว์ตัวเล็ก เช่นหนู กระรอก แมว หมา
2. สัตว์ใหญ่ 4 ขากินเนื้อ เช่น เสือ สิงห์
3. สัตว์เลื่อยคลาน เช่น งู กิ่งก่า จระเข้
4. พืชชนิดต่างๆ
5. สัตว์ปีก เช่นนก ค้างคาว
6. เหล่าแมลงต่างๆ
7. เหล่าสัตว์กินพืช เช่น แรด ช้าง หมู ม้า
8. เหล่าสัตว์ที่ติดสารพิษจากโลกเก่า ทำให้ร่างกายผุพัง แต่ไม่ตาย
ซึ่งทั้ง 8 สายพันธ์ได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข โดยได้นำเทคโนโลยีของมนุษย์ที่ยังหลงเหลือมาใช้ต่างๆ จนกระทั้ง “Barnevaca” มันสมองของเผ่าพืชได้ค้นพบอารยธรรมที่เก่าแก่ของพวกมนุษย์คือการสังเคราะห์ผลึกวิญญาณจากสิ่งมีชีวิตมาแปลงเป็นพลังงาน ซึ่งสิ่งนี้พวกมนุษย์ได้คิดค้นขึ้นมาเมื่อทรัพยากรในโลกหมดและต้องการหาสิ่งอื่นทดแทน Barnevaca ได้เอาอารยธรรมนี้มาทดลอง และค้นพบว่าผลึกวิญญาณ สามารถเป็นพลังงานให้ได้จริง โดยผลึกวิญญาณ จะเกิดมาจากจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งพืช และสัตว์ และผลึกวิญญาณก็ยังมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป อาทิเช่น สัตว์นํ้าก็จะได้ผลึกวิญญาณนํ้าสามารถสร้างนํ้าได้ เป็นต้น แต่เมื่อทำการทดลองไป Barnevaca ก็ได้พบว่านอกจากจะเป็นพลังงานแล้ว ยังสามารถนำมาเป็นอาวุธได้อีกด้วย จึงทำให้ Barnevaca ต้องการจะปิดการทดลองเพื่อใม่ให้เกิดปัญหาขึ้น แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เพราะเรื่องได้ไปถึงหูของเหล่าผู้นำของ 7 สายพันธ์หลักเป็นที่เรียบร้อย โดยแต่ล่ะสายพันธ์หลักก็มีหลักการพื้นฐานในการอยู่รอด และไม่เชื่อใจสายพันธ์อื่นอยู่แล้ว เหล่าผู้นำของแต่ล่ะสายพันธ์จึงได้ ก็ทำการส่งลูกน้องมาแย่งชิงต้นแบบวิธีผลึกวิญญาณไป เมื่อมาถึงจึงได้เกิดการต่อสู้แย่งชิงกันเกิดขึ้น Barnevaca เมื่อเห็นถ้าไม่ดีจึงได้ต้องการทำลายเครื่องสังเคราะห์ผลึกวิญญาณจากสิ่งมีชีวิต แต่หารู้ไม่ว่านั้นคือการกระตุ้นการสร้างให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อเครื่องเกิดการระเบิดส่งผลให้อนุสังเคราะห์ผลึกวิญญาณกระจายไปในอากาศ ไปสู่งสิ่งมีชีวิตต่างๆ และทำให้การสังเคราะห์จิตวิญญาณนั้นสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องอีกต่อไป การต่อสู้ระหว่าง 7 สายพันธ์หลักจึงหนักยิ่งขึ้นเนื่องจากต้องการแย่งชิงพลังของฝ่ายอื่นเข้ามาเป็นของเผ่าตนเองเพื่อใช้เป็นพลังงานต่างๆ จึงได้มีการต่อสู้ และแย่งชิงผลึกวิญญาณจากผู้พ่ายแพ้จากการต่อสู้เกิดขึ้น สงครามดำเนินไปอย่างยาวนานจนทวีบถูกแบ่งแยกออกเป็น 7 ส่วน และสิ่งที่แต่ล่ะสายพันธ์ได้ทำนั้นส่งผลกระทบเป็นอย่างมากจึงถูกเรียกว่า ยุคมืดแห่งบาปทั้ง 7 ได้แก่
บาปแห่งโทสะ เป็นเหล่าสัตว์ที่อยู่ใกล้สารพิษมากที่สุด ทำให้ร่างกายผุพัง และมีการวิวัฒนาการเป็นสัตว์ประหลาดที่เหมือนเป็นชิ้นส่วนร่างกายเท่านั้น มีผู้นำคือปีศาจลูกตา
บาปแห่งเกียจคร้านเป็นพวกเผ่าสัตว์เลื่อยคลาน ที่อยู่ตามหนองนํ้า มีการวิวัฒนาการแบบต่างๆ มีผู้นำเป็นสไลม์
บาปแห่งอัตตาเป็นเผ่า 4 ขาผู้มีกำลังมากมีผู้นำเป็นสิงโต ที่วิวัฒนาการเป็นเดินสองขาเหมือนมนุษย์
บาปแห่งริษยาเป็นเผ่าพืชผู้มีพิษ ที่วิวัฒนาการให้มีขนาดใหญ่ และขยับรากได้
บาปแห่งราคะเป็นเผ่ามีปีกผู้รวดเร็ว มีผู้นำเป็นค้างคาวที่วิวัฒนาการเป็นเดินสองขาเหมือนมนุษย์
บาปแห่งตะกละเป็นเผ่าแมลง ที่หลบซ่อนในมุมมืด โดยมีการวิวัฒนาการอาศัยในสิ่งของและมีขนาดใหญ่ขึ้น มีผู้นำเป็นสไลม์เป็นมิมิค
บาปแห่งความโลภะ เผ่าสิ่งมีชีวิตกินพืชที่กินอย่างไม่หยุดหย่อน มีผู้นำเป็นหมู

เนื่องจากแต่ล่ะเผ่านั้นมีประชากรที่มีจำกัด และยังมีการต่อสู้เพื่อแย่งชิงผลึกวิญาญาณออกมาจากแต่ล่ะเผ่าอีกจึงทำให้แต่ล่ะเผ่าได้ทำการสร้างทหารขึ้นมาจากซากศพเหล่าสัตว์ที่ตาย เป็นลูกสมุน

Animalia
ภาค ผู้กล้า The hero
(Mobile game)

หลังการต่อสู้อย่างยาวนาน เหล่า 7 สายพันธ์หลัก ต่างต่อสู้และแย่งชิงผลึกวิญญาณกัน เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ต่างล้มตาย และเป็นเหยื่อสงครามจำนวนมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดจากผู้นำทั้ง 7 เผ่าที่เกิดความต้องการที่จะแย่งชิงผลึกวิญญาณมาเป็นของตน และแสวงหาอำนาจ มีเพียงเผ่าสัตว์ตัวเล็กที่รักสงบ และไม่มีความต้องการผลึกวิญญาณเท่านั้นที่ไม่เข้าร่วมการต่อสู้แย่งชิงอำนาจ แต่ตอนนี้จำเป็นที่ต้องสู้ จึงได้ลุกขึ้นมาโดยมีตัวแทนผู้สูญเสียและต่อต้านทั้ง 7เผ่าเข้าร่วม และมอบพลังและอุปกรณ์เพื่อใช้ในการต่อกร ผู้นำทั้ง 7 เหล่าผู้ต่อต้านได้หารือถึงการต่อสู้กลับ แต่ไม่เห็นด้วยในการทำสงครามเนื่องจากเหล่าทหารของแต่ละผู้นำมีทั้งผู้สมัครใจ และผู้ที่ถูกบังคับ ดั้งนั้นการทำสงครามจะทำให้เกิดการสูญเสียจำนวนมาก จึงเน้นที่การมุ่งโจมตีที่ผู้นำและผู้ติดตามหลัก ด้วยเหตุนี้ได้คัดเลือกผู้กล้าจากความสามารถขึ้นมา ได้ทั้งหมด 6 ตนคือ กระต่าย หนู แมว หมา จิ้งจอก และกระรอก ทั้ง 6 ตนจะได้รับพลังจากผลึกวิญญาณของแต่ล่ะเผ่าใส่เข้าไปในตัวทำให้มีความสามารถพิเศษ และอาวุธในการต่อสู้ โดยการฝึกนั้น
กระต่ายจะได้รับการฝึกจากกลุ่มลิงโจรสลัด
หนู จะได้รับการฝึกพลังจากเหล่าแมลง
แมว จะได้รับการฝึกจากนักบวชศิลาวิญญาณจากเผ่าพืช
หมา จะได้รับการฝึกจากนักรบของเผ่าสัตว์ใหญ่ 4 ขา
จิ้งจอก จะได้รับการฝึกเป็นนักฆ่าจากเผ้านก
กระรอก จะได้รับการฝึกจากนักเวทย์ศิลาวิญญาณจากกลุ่มสัตว์เลื่อยคลานในป่าลึก

เมื่อฝึกฝนเสร็จ และได้รับพลังจากผลึกวิญญาณที่มาจากพลังของแต่ล่ะเผ่าแล้ว นักรบทั้ง 6 ก็จะกลับมารวมตัวกันและเข้าต่อสู้แต่ล่ะเผ่าเพือช่วยเหลือ และปลดปล่อยประชาชนในเผ่านั้นๆ

Animalia
ภาคเวลาแห่งการปฏิวัติ The Time of Revolution
(Mobile game)

การบุกโจมตีและช่วยเหลือได้เริ่มขึ้นโดยได้เข้าต่อสู้ทีล่ะเผ่า และเมื่อชนะก็ทำการปลดปล่อยประชาชนในเผ่านั้นๆ เพื่อเข้าช่วยเหลือเผ่าอื่นๆต่อไป แต่หนทางไม่ราบลื่น เนื่องจาก เผ่า สัตว์เลื่อนคลาน เผ่าแมลง และเผ่าสัตว์ปีกได้รวมมือกันเพื่อต่อกร ทำให้การต่อสู้ครั้งสุดท้ายผู้กล้าต้องรับมือทั้ง 3 เผ่าพร้อมๆกัน หลังจากการต่อสู้ของระหว่างตัวแทนผู้กล้า และผู้นำทั้ง 7 เผ่าจบลงด้วยชัยชนะของเผ่าสัตว์เลื่อยคลาน โดยการเสียชีวิตของผู้กล้าทั้ง 6 และบาปทั้ง 6
แต่ก่อนผู้กล้าทั้งหกเสียชีวิต พลังผลึกวิญาณก็ได้ถูกส่งกลับไปเพื่อให้รุ่นต่อไป มีเพียงผู้กล้ากระต่ายเพียงตัวเดียวที่โดนหัวหน้าเผ่าสัตว์เลื่อยคลาน สไลม์ Gogmayes กินเข้าไป ซึ่งสไลม์ Gogmayesก็ได้รับบาดเจ็บมาก และรู้ตัวดีว่าไม่รอดแน่นอน จึงได้ให้ งู Chaphasia ขึ้นมาเป็นผู้นำแทนโดยมอบพลังของตัวเอง และพลังของผู้กล้ากระต่ายไว้ที่งู จากนั้นงู Chaphasia จึงได้ใช้พลังผลึกวิญญาณได้ที่ได้มาทั้งหมด เปลี่ยนตัวเองเป็นมหางูยักษ์ และเข้าโจมตีทั้ง 7 เผ่าในทีเดียว ทั้ง 7 เผ่ามีแค่ 2 ทางเลือกคือ ยอมอยู่ภายใต้เผาสัตว์เลื่อยคลาน หรือ ตาย เท่านั้น การกวาดล้างดำเนินไปเพียงแค่ 7 เดือน เผาสัตว์เลื่อยคลานโดยผู้นำมหางูยักษ์ Chaphasia ก็เป็นผู้นำสูงสุดที่ทั้ง 8 เผ่า และทั้ง7 เผ่าที่อยู่ภายใต้การปกครอบต้องส่งแรงงานทาส และผลึกวิญญาณแก่เผ่าสัตว์เลื่อยคลาน เพื่อเป็นบรรนาการ ยุคมืดได้กลับมาอีกครั้ง
ทางฝั่งผู้นำการปลดปล่อยทั้ง 7 เผ่าหลังจากที่กลุ่มผู้กล้าได้พ่ายแพ้และเสียชีวิตไป ก็ได้ทำการส่งกลุ่มเด็กที่เป็นความหวังทั้ง 5 ตัว ได้แก่ แมว หมา กระรอก หนูจิ้งจอกที่เป็นเด็กที่มีพลังสืบทอดของผู้กล้ารุ่นก่อน (โดยที่ขาดกระต่ายที่ถูกกินไป) โดยหวังว่าเด็กเหล่านี้จะกลับมากอบกู้อีกครั้ง โดยทุกกลุ่มที่รับไปดู สัญญาว่า เมื่อครบ 10 ปี จะมาเจอกันอีกครั้ง

Animalia
ภาคความหวังสุดท้าย The Last Hope
(Board game)

เด็กทั้ง 5 ก็เติบโตและมีความสามารถไม่ต่างจากกลุ่มผู้กล้ารุ่นแรก และฝึกฝนและตามหาอาวุธประจำตัวของผู้กล้ารุ่นแรก ของแต่ล่ะตัว เนื่องจากการพ่ายแพ้ครั้งก่อนพลังได้ถูกส่งต่อมาก็จริง แต่เหล่าอาวุธและชุดเกราะนั้นกระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ ดังนั้นก่อนจะไปต่อสู้จึงต้องตามหาชุดเกราะให้พร้อม และในการตามหาชุดเกราะนั้นเด็กทั้ง 5 คนจะกระจายกันไปเพื่อตามหา และเก็บเกี่ยวประสบการณ์การต่อสู้จริงไปด้วย ซึ่งในการฝึกฝนนั้นนอกจากจะตามหาอาวุธแล้ว ทั้ง 5 จำเป็นต้องฝึกฝนต่อสู้ด้วยกัน และฝึกต่อสู้จำลองกับ มหางูยักษ์ Chaphasia เพื่อไม่ให้พลาดอีกเป็นครั้งที่สอง

Animalia
ภาคผู้ปลดปล่อย The Liberated
(Board game)

หลังจากการค้นหาอาวุธของผู้กล้าทั้ง 5 คนดำเนินไป ทั้ง 4 ตนก็ได้อาวุธพร้อมเข้าต่อสู้ แต่จะมีเพียงแค่แมวตัวเดียวเท่านั้น ที่คทาจิตวิญาญาณอยู่ในปราสาทของ มหางูยักษ์ Chaphasia ซึ่ง แมวได้ถูกจับขณะเข้าไปเอาคทา ดังนั้น หมา กระรอก หนู และหมาจิ้งจอกจึงต้องรวมพลังกัน เข้าไปช่วย แมว และรวมพลังทั้ง 5 ต่อสู้กับสมุนของ มหางูยักษ์ Chaphasia และตัว มหางูยักษ์ Chaphasia เอง ซึ่งขณะที่กำลังจะเสียท่าด้วยพลังของ มหางูยักษ์ Chaphasiaที่รวมพลังของทั้ง 7 บาปไว้ด้วยกันนั้น จิตวิญาญาณของกระต่ายที่กินอยู่ภายในตัวของ Chaphasia ก็ได้ส่งพลังออกมาเพื่อสกัดกัน Chaphasia ไว้ และทำให้พลังของผู้กล้าครบทั้ง 6 คน และเอาชนะ Chaphasia ไปได้ที่สุด (สามัคคีคือพลัง) เมื่อ Chaphasia พ่ายแพ้และตาย พลัง 7 บาปที่อยู่ในตัว Chaphasia ก็ได้แตกสลายกระจายออกไป ร่างกายของ Chaphasia จากมหางูยักษ์ก็ได้กลายเป็นงูปกติ และจิดวิญาญาณกระต่ายก็ได้รับการปลดปล่อย

เมื่อกำจัดมหางูยักษ์ Chaphasia โลก Animalia ก็ได้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ไม่มีการแบ่งแยกเผ่า ไม่มีการจับสิ่งมีชีวิตมาทำผลึกวิญาญาณ สัตว์ทุกตัวอยู่ร่วมกัน และมีการแบ่งปันกันอย่างมีความสุข ส่วนผู้กล้าทั้ง 5 ตนที่ได้สละชีวิต ก็ได้ถูกสร้างเป็นรูปปัน เพื่อระลึกถึงทั้งรุ่นแรก และรุ่นสอง และก็ได้ผนึกพลังของผู้กล้าไว้ไว้เพื่อส่งต่อลูกหลานต่อไปเพื่อใช้เมื่อเกิดภัยพิบัติอีกครั้ง